เพื่อนผมที่เป็นจิตแพทย์มักตั้งสมมติฐานว่าพวกทรงเจ้าเข้าผี หรือพวกที่เชื่อว่าตนเองมีสัมผัสพิเศษ คือ ผู้ป่วยทางจิต
เขาถามว่าเราจะเชื่อเรื่องพวกนี้ได้มากแค่ไหน ในเมื่อส่วนใหญ่ของทั้งหมดคือพวกหลอกลวง และส่วนใหญ่ของพวกที่ไม่ได้ตั้งใจหลอกลวง คือผู้ที่มีอาการทางจิต?
นั่นก็เป็นเพราะในทางประสาทวิทยา มันมีหลากหลายสาเหตุเหลือเกินที่ทำให้คนเราสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่ จริง และสับสนระหว่างเรื่องจริง กับจินตนาการ
มันเป็นเรื่องไม่แปลกเท่าไหร่ที่บางครั้งคนเราก็สับสนระหว่างความฝันกับความ จริง เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ เราอาจจำเอาเหตุการณ์ในฝันมาปะปนกับความจริงได้ จากการศึกษาพบว่าคนจำนวนมาก (ร้อยละ 50-73) มีความทรงจำบางอย่างที่ไม่สามารถเชื่อมโยงกับความเป็นจริงได้ และไม่แน่ใจว่ามันเป็นความฝันหรือความจริง
และมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีเส้นแบ่งระหว่างความฝัน(รวมถึงจินตนาการ)และความเป็น จริงบางเบากว่าคนปกติ นั่นคือ กลุ่มคนที่ไม่มีรอยหยัก Paracingulate sulcus (PCS) ที่อยู่ในสมองส่วนลึก รอยหยักนี้ทำหน้าที่แยกแยะระหว่างจินตนาการกับความเป็นจริง
รอยหยัก PCS จะก่อตัวขึ้นในช่วงท้ายของพัฒนาการตัวอ่อนตอนที่ยังอยู่ในครรภ์มารดา และพบว่าตัวอ่อนร้อยละ 27 ไม่มีพัฒนาการรอยหยักดังกล่าว นั่นหมายถึง 27% ของคนเรา มีความสามารถต่ำในการแยกแยะสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และสิ่งที่เป็นเพียงความฝันหรือจินตนาการเอาเอง
นักประสาทวิทยาชาวอังกฤษ (จอห์น เอส. ไซมอนส์ /เคมบริดจ์) ได้ทำการทดลองเพื่อพิสูจน์ให้เห็นจริงในปรากฎการณ์ดังกล่าว โดยให้อาสาสมัครดูบัตรที่เขียนคำ หรือข้อความ ที่อาสาสมัครคุ้นเคย แต่ข้อความนั้นเป็นข้อความที่ขาดหาย ไม่ครบถ้วน จากนั้นให้แต่ละคนบอกว่าแต่ละใบเขียนข้อความอะไร
ปรากฏว่าผู้ที่มีรอยหยัก PCS ตอบได้ถูกต้องตามความเป็นจริง ส่วนผู้ที่ขาดรอยหยักนี้มักเติมข้อความที่ขาดหายลงไป และเชื่อว่ามีข้อความนั้นอยู่จริง พวกเขาแทบจะแยกไม่ออกทันทีระหว่างความจริงกับความคิดของตัวเอง
ผู้ที่ขาดรอยหยัก PCS มักมีความทรงจำที่สับสน มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคทางจิต และมักเป็นกลุ่มคนที่อ้างว่ามองเห็น หรือได้ยิน ในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
Science Illustrated Dec 2015
http://www.nature.com/…/151…/ncomms9956/full/ncomms9956.html
http://www.nature.com/…/151…/ncomms9956/full/ncomms9956.html
photo: Jelene Morris